รู้หรือไม่?? ควันธูป อันตรายเทียบเท่าควันบุหรี่
สารบัญ
ควันธูปก่อฝุ่น PM10 ตัวการร้ายสร้างมะเร็งปอด
ขึ้นชื่อว่าควันอันตรายไม่แพ้กัน
เปอร์เซ็นต์การเกิดโรคร้ายจากควันธูป
อาการของผู้ที่ได้รับควันธูปมากเกินไป
ทุกคนต่างก็ชินกับภาพบรรยากาศภายในวัดหรือศาลเจ้าที่มี ควันธูป จำนวนมากปกคลุมไปทั่ว บางคนสูดควันธูปเข้าไปจนรู้สึกหายใจติดขัด บางคนโดนควันเข้าตาจนแสบแดง จนหลายๆ ครั้งมีการรณรงค์ให้ไหว้พระโดยไม่
จุดธูป วันนี้เรามาอธิบายถึงสาเหตุและอันตรายที่เกิดจาก ควันธูป ให้ได้ฟังกัน
ปัจจุบัน ธูปมักมีส่วนประกอบของขี้เลื่อย กาวกั๊วะก่า และกลิ่นที่สกัดจากพืชหรือสารเคมี ซึ่งเมื่อธูปถูกเผาไหม้ก็จะทำให้เกิดฝุ่นละอองและมีสารพิษระเหยออกมา เช่น สารเบนโซเอไพรีน สารเบนซีน และสารบิวทาไดอีน ซึ่งเป็นสารที่มีความสัมพันธ์ชักนำให้เกิดโรคมะเร็ง แถมยังมีสารที่เป็นมลพิษอื่นๆ อีก เช่น ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ ผู้ที่สูดดมเข้าไปก็จะเกิดการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ เกิดการจาม ไอ ระคายคอ หายใจลำบาก ปวดศีรษะ หรือแม้แต่ ควันธูป เข้าตาก็อาจทำให้แสบตา น้ำตาไหล เราจึงควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มี ควันธูป
“ควันธูป” ก่อฝุ่น PM10 ตัวการร้ายสร้าง “มะเร็งปอด”
สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาให้กังวลใจคนไทยอยู่ ณ ขณะนี้ นอกจากฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่เราทราบกันดีว่าเป็นอันตรายมากแค่ไหน โดยมันสามารถซึมเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ปอด และกระแสเลือดได้ ทั้งยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจด้วย แต่ยังมี “ควันธูป” อีกเช่นกันที่เป็นภัยร้าย ซ้ำยังถูกพูดถึงอยู่น้อยครั้ง แต่รู้หรือไม่ว่า ควันธูปก่อให้เกิดโรคมะเร็งเช่นกัน และการจากเผาไหม้ของธูป ยังทำให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน หรือที่เรียกว่า PM10
“ควันธูป” อีกหนึ่งตัวการสำคัญ ก่อ “โรคมะเร็ง”
“ควันธูป” ประกอบไปด้วยสารก่อมะเร็งมากถึง 3 ชนิด อันได้แก่ เบนซีน บิวทาไดอีน และเบนโซเอไพรีน ซึ่งอยู่ในกลุ่มของ Polycyclic Aromatic Hydrocarbons; PAHs เป็นสารที่มีศักยภาพในการก่อมะเร็ง นอกจากสารดังกล่าวแล้ว ยังพบอนุภาคฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน (10 micron-Particulate matter; PM10) ที่เกิดจากการเผาไหม้ของธูป ซึ่งฝุ่นขนาดเล็กนี้ มนุษย์สามารถหายใจเข้าไปถึงระบบทางเดินหายใจได้ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาทางด้านสุขภาพ
ขึ้นชื่อว่า “ควัน” อันตรายไม่แพ้กัน
นอกจาก “ควันธูป” ที่ประกอบไปด้วยสารก่อมะเร็ง 3 ชนิด ได้แก่ เบนซีน บิวทาไดอีน และเบนโซเอไพรีน ซึ่งอยู่ในกลุ่ม Polycyclic Aromatic Hydrocarbons; PAHs ยังมีควันบุหรี่ และควันท่อไอเสียรถยนต์ ที่อันตรายไม่แพ้กัน โดยใน “ควันบุหรี่” มีสารพิษในกลุ่มอัลดีไฮด์และสารอินทรีย์ขนาดเล็กที่ได้จากการเผาไหม้ เช่น อะโครลีน ฟอร์มาลดีไฮด์ และยูรีเทน เป็นตัวการหลักในการก่อมะเร็ง และโรคทางเดินหายใจ สารพิษในกลุ่มโลหะหนัก เช่น สารหนู ตะกั่ว และแคดเมียม ก่อมะเร็งเช่นเดียวกัน สารพิษในกลุ่มไนโตรซามีน เช่น N-nitrosodimethylamine (NDMA) และ Nitrosopyrrolidine เป็นพิษต่อเนื้อเยื่อและกระตุ้นการเกิดมะเร็งบางชนิด สารพิษกลุ่ม Polycyclic Aromatic Hydrocarbons; PAHs เช่น เบนซีน และ Chrysene เป็นสารก่อมะเร็ง และสารพิษในกลุ่มอื่น ๆ เช่น ดีดีที ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และไซยาไนท์ ซึ่งทำให้เกิดอันตรายต่ออวัยวะต่าง ๆ แตกต่างกัน
นอกจากนี้ “ควันท่อไอเสียรถยนต์” ก็มีสารพิษด้วยเหมือนกัน เช่น คาร์บอนมอนนอกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ ไฮโดรคาร์บอน ไนตริคออกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ พวกอัลดิไฮด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และเขม่า ซึ่งเขม่าประกอบไปด้วยสารกลุ่ม Polycyclic Aromatic Hydrocarbons; PAHs เป็นต้น ซึ่งเป็นส่วนประกอบของสารที่พบคล้ายกันกับ “ควันธูป – ควันบุหรี่” ด้วย
เปอร์เซ็นต์การเกิดโรคร้ายจากควันธูป
เปอร์เซ็นต์การเกิดโรคร้ายหรือโดยเฉพาะโรคมะเร็งปอด คงระบุเป็นระยะเวลาค่อนข้างยากว่าต้องได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานเท่าไร แต่จากการวิจัยโดยทั่วไปต้องมีการรับสัมผัสควันธูปในระยะเวลานานเป็น 10 ปีติดต่อกัน แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยในการเกิดโรค เช่น พันธุกรรม ปัจจัยทางด้านการระบายอากาศในสถานที่จุดธูป ถ้าไม่มีการระบายอากาศหรือมีการระบายอากาศที่ไม่ดีก็ย่อมเพิ่มความเสี่ยงต่อการรับสัมผัสควันธูปเพิ่มมากขึ้น และมีความเสี่ยงต่อการการเกิดโรคมะเร็งมากขึ้นตามไปด้วย
“ควันธูป” เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมจริงหรือไม่?
ในการจุดธูปนั้น จะทำให้เกิดควันและเกิดมลพิษในอากาศ เช่นเดียวกันกับที่พบใน “ควันท่อไอเสียรถยนต์” ซึ่งสารที่อยู่ในควันธูปเป็นพิษต่อสารพันธุกรรมและสามารถนำไปสู่การเกิดมะเร็งในมนุษย์ได้ โดยสารมลพิษที่ปนเปื้อนในอากาศที่เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเชื้อเพลิง ได้แก่ สารโพลิไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (Polycyclic Aromatic Hydrocarbons; PAHs) ซึ่งเป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่มีความคงตัวและมีความเป็นพิษสูง เกิดจากกิจกรรมทั่วไปในอาคาร เช่น การใช้เชื้อเพลิงในการปรุงอาหาร การจุดยากันยุง รวมไปถึง “การจุดธูป” เป็นต้น
“วัด” สถานที่ที่มีการจุดธูปเป็นประจำ เช่นนี้ “ผู้ที่ทำงานในวัด”
จะมีสารก่อมะเร็งในเลือดสูงกว่าคนทั่วไป จริงหรือไม่?
มีการศึกษาวิจัยพบว่า คนทำงานในวัดมีสารก่อมะเร็งในเลือดสูงกว่าคนทั่วไป 4 เท่า แต่ทั้งนี้ เป็นการศึกษาแบบภาคตัดขวาง (Cross-Sectional Study) หมายความว่า ไม่ใช่ทุกสถานที่ที่มีการจุดธูปเป็นประจำจะมีสารก่อมะเร็งในเลือดสูงกว่าคนทั่วไป 4 เท่า ทั้งนี้ อาจจะน้อยกว่าหรือมากกว่าเป็นไปได้เสมอ เพราะว่าการรับสัมผัสควันธูป ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อมด้วย เช่น อุณหภูมิ ความเร็วลม ความชื้นสัมพัทธ์ การระบายอากาศภายในอาคาร ซึ่งเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อการรับสัมผัสควันธูปเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น ถ้าภายในอาคารที่มีการจุดธูปและไม่มีการระบายอากาศที่ดี คนที่ทำงานในบริเวณนั้นตลอดเวลาย่อมมีความเสี่ยงต่อการรับสัมผัสสารจากควันธูป ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งมากกว่าคนทั่วไป
เด็กนักเรียนในเมืองใหญ่ ก็เสี่ยงเป็นมะเร็งด้วยเช่นกัน
นอกจากผู้ที่ทำงานในวัดที่มีความเสี่ยงแล้ว ยังมีอาชีพอื่น ๆ ที่มีความเสี่ยงจากการรับสัมผัสสารก่อมะเร็ง เช่น ตำรวจจราจร เด็กนักเรียนในเมืองใหญ่ ๆ ที่ต้องเดินทางไปเรียนด้วยตนเอง เช่น กรุงเทพมหานคร และกลุ่มที่มีความเปราะบางทางสุขภาพ เช่น เด็ก คนชรา และผู้ที่จุดธูปเพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในบ้านโดยไม่มีอากาศถ่ายเท เป็นต้น
อาการของผู้ที่ได้รับควันธูปมากเกินไป
มีอาการแสบตา ตาแห้ง รวมถึงมีน้ำตาไหล
หากคุณสูดดมหรือรับควันธูปมากเกินไป อาจจะมีปัญาเกี่ยวกับระะบบทางเดินหายใจ เช่น มีอาการระคายเคืองจมูกไปจนถึงขั้นไอและจาม และระคายเคืองในคอได้
มีอาการมึนหัว ปวดศีรษะ รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย และง่วงนอน จนอาจถึงขั้นหมดสติหากได้หากคุณรับควันธูปในเวลาที่นานและในปริมาณมากเกินไป
หมายเหตุ : ซึ่งกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากที่สุดจะเป็นผู้ที่มีปัญหาด้านระบบทางเดินหายใจ, ผู้ที่มีโรคประจำตัว, ผู้สูงอายุ, สตรีมีครรภ์ และเด็ก ๆ ค่ะ
แนะนำ 4 วิธีการดูแลตนเอง สำหรับผู้ที่ต้องอยู่ในบริเวณที่มีการจุดธูป ไว้ดังนี้
รณรงค์ให้ลดการจุดธูปหรือจุดธูปบริเวณที่โล่ง บริเวณที่มีอากาศถ่ายเท เพื่อลดการรับสัมผัสสารจากควันธูป หรือใช้ธูปขนาดสั้นเพื่อให้เกิดควันระยะสั้น หรือใช้ธูปไฟฟ้า
ถ้าหลีกเลี่ยงการจุดธูปไม่ได้ ให้จัดให้มีการระบายอากาศในทิศทางเดียว (One Directional Air Flow) และให้อยู่เหนือทิศทางลม เพื่อลดการรับสัมผัสสาร
ควรสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละออง หรือใช้ผ้าชุบน้ำพอหมาด ๆ ปิดปากปิดจมูก
ภายหลังการสัมผัสควันธูปควรล้างมือ ล้างหน้า ล้างตา ให้สะอาด
โดย กลุ่มเสี่ยงต่ออันตรายจากควันธูป ได้แก่ เด็ก คนชรา และบุคคลที่ป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคถุงลมโป่งพอง หรือหลอดลมอักเสบเรื้อรัง เพราะบุคคลเหล่านี้ มีกลไกการต่อต้านสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายไม่เหมือนปกติ ทำให้มีโอกาสเกิดอาการผิดปกติได้มากกว่าในกลุ่มคนที่มีสุขภาพดี
วัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามยังคงต้องรักษาไว้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการจุดธูปในที่ที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก และควรหันมาใช้ธูปที่มีขนาดสั้นลง ดับหรือเก็บธูปให้เร็วขึ้น ก็จะช่วยทั้งในเรื่องของสุขภาพและลดโอกาสเกิดเพลิงไหม้ ผู้ที่สัมผัสธูปหรือควันธูปโดยตรงก็ควรล้างมือล้างหน้าเพื่อลดสิ่งตกค้าง สำหรับเด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคปอด หรือโรคภูมิแพ้ ควรหลีกเลี่ยงเป็นพิเศษ หรือหากจำเป็นก็ควรใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัยปิดปากปิดจมูกป้องกันไว้จะดีที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก :มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
หากเรามี เครื่องฟอกอากาศ ติดไว้ในบ้าน ก็จะสามารถช่วยกรองอากาศไม่ดีต่อสุขภาพ ที่เข้าสู่ร่างกายเราออกไปได้ อย่างนี้เราควรหามาติดบ้านไว้สักเครื่องหนึ่ง เพื่อสุขภาพที่ดีของคนที่เรารัก และตัวเราเอง
การที่คุณมี เครื่องฟอกอากาศ ติดไว้อยู่ในบ้าน จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเหล่านี้ได้
เพราะในเครื่องฟอกอากาศ มีขั้นตอนการทำงาน ดังนี้
คุณสมบัติเครื่องฟอกอากาศ
กำจัดฝุ่น PM 2.5 ควันบุหรี่ เชื้อรา แบคทีเรีย กลิ่นเหม็น กลิ่นอับ จุลินทรีย์
ทำลายเชื้อโรคต่างๆ เชื้อไวรัส สารก่อภูมิแพ้
แผ่นกรอง 4 ชั้น เพื่ออากาศที่บริสุทธิ์ ระบบกรอง H E P A + Activated Carbon + Negative ion มีAnion ปล่อยประจุไฟฟ้าลบ
ช่วยในการดูดจับฝุ่นละอองไม่ให้ฟุ้งกระจายไปในอากาศ
เหมาะสำหรับห้องขนาด 1-35 ตารางเมตร
มาพร้อม รีโมทคอนโทรล และ คู่มือการใช้งานภาษาอังกฤษ
หน้าจอสัมผัส Touch Screen มีโหมด Sleep
เสียงเบาเพียง 35 dB ไม่รบกวนการนอน
แสดงผลค่าอากาศบริสุทธิ์แบบเรียลไทม์
ดีไซน์สวยงามดีต่อใจ
เคลื่อนย้ายสะดวกจับถนัดมือ
ขนาด 330*220*505 mm.
น้ำหนัก 6.5 kg.
📞สั่งซื้อสินค้าโทร📞โทร 089-936 3588
Facebook : Smile Shop International
Youtube : SmileShop International
Website : SmileShop International