สารบัญ
7วิธีลด กลิ่นอาหาร ในครัวคอนโดง่ายๆ ใครใครก็ทำได้
วิธีที่2 ทำความสะอาดครัวทันทีเมื่อปรุงอาหารเสร็จ
วิธีที่3 น้ำส้มสายชูและเบกกิ้งโซดา
วิธีที่4 ทำความสะอาดและลดกลิ่นอับในตู้เย็นด้วยถ่านและกาแฟบด
วิธีที่5 ต้มน้ำสมุนไพรดับกลิ่น
วิธีที่7 เครื่องฟอกอากาศ ลดกลิ่นได้ทันใจหายห่วง
สรุป กลิ่นอาหาร หายไปได้ ภายในพริบตา
7วิธีลด กลิ่นอาหาร ในครัวคอนโดง่ายๆ ใครใครก็ทำได้
การทำอาหารเป็นความสุขของใครหลายคน แต่ปัญหาที่กวนใจเราอยู่เสมอนั่นก็คือ “กลิ่นอาหาร” แม้ว่าจะพยายามกำจัด กลิ่นอาหาร ด้วยการเปิดประตู หน้าต่าง เปิดพัดลมแล้วก็ตาม วันนี้ SmileShop มีวิธีง่ายๆที่จะช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ให้หมดไป ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมและข้อจำกัดในแต่ละพื้นที่ แม้ภายนอกจะดูสะอาดแล้วแต่ก็อาจยังหลงเหลือกลิ่นอยู่ได้ และในครัวก็มีหลายมุมเลยค่ะที่เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ขึ้นได้ง่าย ๆ สำหรับบ้านไหนที่เจอปัญหาจากกลิ่นตามจุดต่าง ๆ ในห้องครัว ก็ลองนำลองเคล็ดลับจาก Smileshop ไปลองใช้กันได้นะคะ ในสภาพอากาศร้อนชื้นแทบจะตลอดทั้งปีอย่างในบ้านเรา กลิ่นเหม็นในคอนโด ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากสภาพอากาศที่ช่วยให้เกิดกลิ่นอับในคอนโดได้งายแล้ว การใช้ชีวิตก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นในคอนโดได้ ยิ่งใครชอบทำอาหารในคอนโดล่ะก็ เรื่องกลิ่นติดห้องนี่เป็นปัญหาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไหนจะกลิ่นขยะ กลิ่นรองเท้า ผสมกันไปหมด
1. ทำให้ครัวมีอากาศถ่ายเท
หากเราอาศัยในคอนโดมิเนียมที่มีส่วนครัวแยกเป็นสัดส่วน สามารถติดตั้งฉากกั้นระหว่างส่วนครัวออกจากส่วนอื่นของห้องเพื่อไม่ให้กลิ่นลอยไปติดห้องอื่นได้ เปิดหน้าต่างหรือประตูระเบียง และเปิดเครื่องดูดควันไว้ล่วงหน้าก่อนปรุงอาหารเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น แต่มีข้อควรระวังสักนิดก่อนเข้าครัว ควรสำรวจเพื่อนบ้านข้างห้องสักหน่อยว่าเขาเปิดหน้าต่างรับลมสบายๆ หรือตากผ้ารับแดดริมระเบียงอยู่หรือเปล่า แน่นอนกลิ่นอาหารจานอร่อยของเราอาจไปรบกวนเพื่อนบ้าน ดีไม่ดีจะเป็นเหตุให้ผิดใจกันได้ง่ายๆ เอาเป็นว่าต้องดูทิศทางลมให้ดีก่อนเข้าครัวค่ะ บ้านสไตล์ไทยอาจไม่คุ้นเคยกับเครื่องดูดควันที่ใช้ติดตั้งเหนือเตาแก๊สเพื่อใช้ดูดควันจากการทำอาหารโดยเฉพาะ แต่สำหรับบ้านที่ทั่วบ้านติดตั้งเครื่องปรับอากาศและไม่มีช่องทางระบายกลิ่นได้เหมาะอย่างยิ่งที่ต้องติดตั้งเครื่องดูดควันเพื่อดูดกลิ่นจากการทำอาหารโดยเฉพาะนั่นเอง ซึ่งในบางรุ่นนั้นจะมีฟังก์ชั่นดูดซับกลิ่นและควัน ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ก่อนปล่อยควันออกไปเพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเพื่อนบ้านอีกด้วย
2. ทำความสะอาดครัวทันทีเมื่อปรุงอาหารเสร็จ
ล้างอุปกรณ์เครื่องครัว เช็ดคราบสกปรกบนเตาและอ่างล้างจานให้สะอาดไร้สิ่งตกค้างหลังจากทำอาหารเสร็จ หากปล่อยทิ้งไว้นานกลิ่นของอาหารจะลอยไปติดตามผนังห้องและเฟอร์นิเจอร์เป็นคราบฝังลึก จะทำความสะอาดยากขึ้นไปอีก
และการทำอาหารในคอนโดมิเนียมหรือหอพัก หรือแม้แต่ครัวในบ้านของเรา ควรเตรียมถังขยะใบเล็กๆ วางข้างเขียง สำหรับใส่เศษอาหารสด และควรแยกขยะเปียกขยะแห้งออกจากกัน ตามวิถีแม่บ้านญี่ปุ่น เป็นไอเดียที่ดีในการช่วยคัดแยกขยะเพื่อรีไซเคิลให้ง่ายขึ้น และหลีกเลี่ยงการใช้ถังขยะใบใหญ่ เพราะเรามักจะรอให้ถังขยะเต็มก่อนถึงจะนำขยะไปทิ้ง แน่นอนว่าเมื่อเศษอาหารทั้งขยะเปียกขยะแห้งมากองรวมกันจะเกิดความชื้นและกลิ่นไม่พึงประสงค์อบอวลในบ้านของเราตลอดเวลา
3.น้ำส้มสายชูและเบกกิ้งโซดา…สุดยอดเครื่องปรุงประจำครัว (Vinegar and baking soda are must-have items)
น้ำส้มสายชูและเบกกิ้งโซดาคือ must-have item ที่ต้องมีติดครัวไว้ค่ะ น้ำส้มสายชูนอกจากจะใช้ปรุงอาหารให้อร่อยแล้ว ยังมีประโยชน์ช่วยขจัด และทำความสะอาดครัวให้สะอาดเหมือนใหม่ด้วย เพียงแค่ใช้น้ำส้มสายชู ½ ถ้วย ผสมกับน้ำอุ่น 1 ถ้วย บีบมะนาวแต่งกลิ่นหอมลงไปเล็กน้อย เทใส่ขวดฟ็อกกี้ไว้ฉีดทำความสะอาดขจัดคราบมันหลังจากทำอาหารและช่วยดับกลิ่นได้ดี
สำหรับเบกกิ้งโซดา ที่สายหวานต้องมีติดครัวขนมไว้ เจ้าส่วนผสมตัวนี้นอกจากจะช่วยให้ขนมของเราฟูนุ่มน่ารับประทานแล้ว ยังเป็นตัวช่วยดูดกลิ่นอับชื้นอย่างมีประสิทธิภาพ ลองหาขวดโหลใสใบเล็กๆ เจาะรูที่ฝามาใส่ผงเบกกิ้งโซดา แล้วนำไปวางตามมุมต่างๆ ภายในครัว โดยเฉพาะจุดที่เราวางถังขยะจะช่วยลดกลิ่นเหม็นอับได้ และอีกหนึ่งประโยชน์ของเบกกิ้งโซดา สามารถนำมา ใช้ทำน้ำยาทำความสะอาดเตาไมโครเวฟได้ง่ายๆ โดยใช้เบกกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำอุ่นอีก 1 ลิตร แล้วใช้ผ้าชุบน้ำมาเช็ดทำความสะอาดภายในเตาไมโครเวฟไม่ให้เหลือคราบและกลิ่นตกค้าง
4. ทำความสะอาดและลดกลิ่นอับชื้นภายในตู้เย็นด้วยถ่านและกากกาแฟบด (Clean up and put a charcoal or ground coffee in the refrigerator)
อีกมุมหนึ่งของห้องครัวที่มักจะมีกลิ่นอับชื้นก็คือภายในตู้เย็น ไม่ว่าจะมาจากเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ต่างๆ ที่ส่งกลิ่นออกมาภายนอกทุกครั้งที่เราเปิดตู้เย็น (ยิ่งช่วงนี้เปิดตู้กันบ่อยๆ กลิ่นก็ลอยเพิ่มมาพร้อมกับน้ำหนักตัวที่มากขึ้นตามไปด้วย) ดังนั้นเราควรทำความสะอาดตู้เย็นอยู่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ก็ควรหาเวลาว่างสำหรับเคลียร์วัตถุิบหรืออาหารหมดอายุที่เก็บไว้จนลืม นอกจากจะส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งในตู้เย็นแล้ว จะพลอยทำให้ของสดอย่างอื่นมีกลิ่นที่ไม่ดีตามไปด้วย อีกวิธีที่ช่วยลดกลิ่นในตู้เย็นได้คือ อาจจะนำถ่านสัก 2-3 ก้อน หรือกากกาแฟที่เหลือจากการดริป ห่อผ้าโปร่งบางแล้วนำไปวางไว้ในตู้เย็นเพื่อช่วยดับกลิ่นเหม็น โดยรูพรุนเล็กๆ บนผิวของถ่านจะช่วยดูดซับสารเคมีที่มีกลิ่นประเภทไฮโดรคาร์บอนเอาไว้ได้อย่างดี
5. ต้มน้ำสมุนไพรดับกลิ่น (Boil your favourite spices)
อีกหนึ่งวิธีแสนง่ายที่ช่วยดับกลิ่นเหม็นอับในครัวได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่ต้มน้ำร้อนให้เดือดจัดผสมน้ำส้มสายชูเล็กน้อย เพิ่มกลิ่นหอมด้วยมะนาวฝานแว่น หรือเปลือกส้มก็ได้ เลือกกลิ่นตามใจชอบเอาลงไปต้มด้วยกัน แล้วนำมาวางข้างเตาขณะปรุงอาหาร ไอน้ำที่ระเหยจะช่วยลดความแรงของกลิ่นอาหารได้เป็นอย่างดี และหากในห้องของเรามีที่จุดน้ำมันหอมระเหย (Diffuser) ก็สามารถนำน้ำสมุนไพรต้มแต่งกลิ่นมาใช้แทนน้ำมันหอมระเหยได้เลยค่ะ โดยเฉพาะเมนูกลิ่นแรงแบบอาหารไทย ไม่ว่าจะทอดปลาเค็มเตรียมทานกับข้าวต้มร้อนๆ หรือจะผัดกระเพรากะเพรารสจัดจ้าน สามารถเติมส่วนผสมของตระตะไคร้ซอยและใบมะกรูดลงไปต้มด้วย จะช่วยยกระดับการดับกลิ่นไปอีกขั้นค่ะ เพื่อนๆจะเห็นได้ว่าการสร้าง กลิ่นหอมในคอนโด ไม่ใช่เรื่องยากเลย เราสามารถนำวิธีนี้ไปทดลองทำ และดูว่ากลิ่นหอมเหล่านี้ จะช่วยให้เราผ่อนคลายดีจริงหรือไม่?? แต่โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าการกลับมาถึงบ้านและถ้าบ้านมีกลิ่นหอมก็จะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายขึ้นทีเดียวเชียวล่ะ
6. มะนาวจัดการกลิ่นขยะ
นอกจากกลิ่นที่เกิดจากการทำอาหารแล้ว อาจมีกลิ่นอื่นๆ ที่กวนใจเราอีกไม่น้อย เช่นกลิ่นเหม็นจากถังขยะภายในครัว แก้ไขได้โดย
นำถังขยะไปล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย
จากนั้นใช้แอลกอฮอล์ผสมกับน้ำเปล่าใส่ในกระบอกฉีดน้ำฉีดพรมให้ทั่ว โดยเฉพาะบริเวณก้นถัง เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่น
ฝานมะนาวให้เป็นแผ่นบางๆ แล้วทิ้งลงไปในถังขยะหรือรองก้นถังไว้พร้อมกับหนังสือพิมพ์
อย่าลืมหาฝามาปิดไว้เพื่อเพิ่มความมิดชิดอีกหนึ่งชั้น
ถึงแม้ว่าเรื่องกลิ่นจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่เราก็ไม่ควรมองข้าม เพราะห้องครัวเปรียบเสมือนเสบียงอาหารของบ้าน ถ้าหากห้องครัวของเราสะอาดสะอ้าน ไร้กลิ่นกวนใจ ใครๆ ก็อยากเข้าครัว จริงไหมคะ
7. เครื่องฟอกอากาศ ลดกลิ่นได้ทันใจหายห่วง
โดยปกติแล้วจุดประสงค์หลักของการซื้อเครื่องฟอกอากาศมาใช้งาน คือ ต้องการตัวช่วยในการกรองอากาศภายในบ้านให้สะอาด โดยเฉพาะการลดฝุ่นละออง PM 2.5 ไมครอน ที่กำลังเป็นปัญหาในสังคมไทย แต่ทราบหรือไม่ว่า เครื่องฟอกอากาศบางรุ่นสามารถขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้เช่นกัน
โดยเครื่องฟอกอากาศบางรุ่น จะมีฟังกชันและเทคโนโลยีพิเศษ เช่น ฟิลเตอร์กรองกลิ่น, Activated Carbon, การปล่อยประจุไอออน จึงช่วยรับมือกับกลิ่นไม่พึงประสงค์ อย่างกลิ่นบุหรี่, ควันธูป, กลิ่นถังขยะ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นหากกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศ ก็ลองมองหารุ่นที่มีคุณสมบัติดังกล่าว จะได้เครื่องฟอกอากาศที่คุ้มค่ายิ่งขึ้น เช่น เครื่องฟอกอากาศ Air Pura
แถมท้าย: การกำจัดกลิ่นภายในบ้านด้วยวิธีธรรมชาติ
นอกจากการใช้เครื่องฟอกอากาศแล้ว ยังมีวิธีการกำจัดกลิ่นและสร้างอากาศที่สดชื่นภายในบ้านง่ายๆ และประหยัดกว่า นั่นคือการเปิดหน้าต่างให้อากาศใหม่หมุนเวียนมาเปลียนถ่าย (ยกเว้นกรณีที่สภาพแวดล้อมนอกบ้านไม่เอิ้ออำนวย เช่น อยู่ใกล้โรงงานอุตสหกรรม โรงโม่ปูน) และการปลูกต้นไม้ … ใช่แล้วครับ ต้นไม้ในห้องจะช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์โดยการดูดซับสารเคมีในอากาศและปล่อยอ๊อกซิเจนออกมาแทนผ่านกระบวนการสังเคราะห์แสง (Photosynthesis) แบบที่เราเคยเรียนกันมาแล้วตอนเด็กๆ ^^ เรียกได้ว่า 3-in-1 ทั้งกำจัดสารพิษ กลิ่น และมอบอากาศสดชื่นกลับคืน แนะนำให้เลือกปลูกไม้กระถางที่ดูแล้วปลอดภัย ไม่มีใบหนามแหลมคม โดยเฉพาะกรณีบ้านไหนที่มีเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยงอยู่ด้วย
สรุป กลิ่นอาหาร หายไปได้ ภายในพริบตา
ปัญหาหากลิ่น คือปัญหาที่ชาวคอนโดฯ ทุกคนต้องเจอเป็นประจำ ซึ่งหัวใจหลักในการป้องกันการเกิดกลิ่นนั่นก็คือการรักษาความสะอาด ทิ้งขยะ เศษอาหารทุกวันเพื่อไม่ให้เกิดกลิ่นอับสะสม และการเปิดหน้าต่างเพื่อให้แสงแดดส่องเข้ามาก็เป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยลดกลิ่นอับ แถมยังช่วยค่าเชื้อโรคในห้องได้ด้วย การดูแลทำความสะอาดครัวและกำจัดกลิ่นตกค้างควรทำอย่างสม่ำเสมอ หวังว่าเคล็ดลับที่รวบรวมมาฝากนี้จะมีประโยชน์ วิธีการทำก็ทำได้ง่าย ด้วยวัตถุดิบที่สามารถหาได้ในครัวของเราเอง ทำให้ต่อไปนี้เพื่อนๆ ไม่ต้องกังวลกับกลิ่นตกค้าง และสนุกกับการเข้าครัวกันได้เต็มที่เลยค่ะ และนี่คือเทคนิคกำจัดกลิ่นอาหารติดคอนโด ที่มาแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน และถ้าเพื่อนๆทดลองทำแล้วได้ผลยังไงอย่าลืมกลับมาเล่าให้นิวบ์ฟังบ้างน๊า