- ไรฝุ่นคืออะไร
- ลักษณะโดยทั่วไปของไรฝุ่น
- อาการของโรคภูมิแพ้ไรฝุ่น มีอะไรบ้าง?
- ไรฝุ่นชอบอาศัยอยู่ที่ไหน และกินอะไรเป็นอาหาร?
- ไรฝุ่น คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับไรฝุ่น Q&A
ไรฝุ่นคืออะไร?
ไรฝุ่น คือ ไรชนิดหนึ่งจัดอยู่ในจำพวกแมง ที่จัดอยู่ในจำพวกแมงเพราะมันมี 8 ขา แต่เมื่อยังเล็ก จะมี 6 ขา เมื่อโตขึ้นถึงจะมีขางอกออกมาอีก 2 ขา ไรฝุ่นจัดเป็นอันดับที่ 1ของโรคภูมิแพ้ ทั้งซากและอึของมันมีฤทธิ์เป็นสารก่อภูมิแพ้ เมื่อเราสูดดมเข้าสู่ร่างกายจะทำให้ผู้ที่แพ้เกิดอาการภูมิแพ้ได้ อาการภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นจะมีด้วยกัน 4 ลักษณะ แต่โดยทั่วไปที่พบได้บ่อยคือ อาการภูมิแพ้ทางจมูกและระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอาการที่แสดงออกมาจะมีทั้งคัดจมูกมีน้ำมูกแบบใสๆข้น จมูกหายใจไม่สะดวกไอจาม และบางรายอาจจะมีอาการรุนแรงถึงขั้นหอบ เป็นต้น ในผู้ที่แพ้ไรฝุ่น เมื่อได้รับสารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่นเข้าสู่ร่างกาย โดยส่วนใหญ่จะแสดงอาการในทันที ไม่เหมือนโรคหวัดที่จะต้องใช้เวลา 2-3 วันหลังจากได้รับเชื้อถึงจะแสดงอาการ และอาการภูมิแพ้เหล่านี้จะเป็นเป็นหายหายตลอดปีไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
ลักษณะโดยทั่วไปของ ไรฝุ่น
ไรฝุ่น จะมีขนาดเล็กมากๆโดยเมื่อโตเป็นวัยรุ่นจะมี 8 ขาและมีขนาดประมาณ 0.3 มม. โดยเราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ต้องใช้กล้องกำลังขยายสูงส่อง จึงจะสามารถมองเห็นได้ ตัวของไรฝุ่นจะเป็นลักษณะใสๆ มีตาแต่มองไม่เห็น ไม่มีจมูก หายใจทางผิวหนัง มีตัวผู้ ตัวเมีย สามารถผสมพันธุ์ ออกลูก ออกหลานได้
อาการของโรคภูมิแพ้ไรฝุ่น มีอะไรบ้าง?
อาการที่พบบ่อย ได้แก่ คัดจมูก คันจมูก จาม น้ำมูกไหล คันตา แสบตา เคืองตา น้ำตาไหล คันคอ ไอ คันผิวหนัง เป็นผื่น
อาการที่พบในคนที่เป็นโรคหืด (Asthma) ได้แก่ หายใจลำบาก แน่นหน้าอก หายใจมีเสียงวี๊ด มีอาการหอบหืดในเวลากลางคืน หรือช่วงตื่นนอน
ไรฝุ่นชอบอาศัยอยู่ที่ไหน และกินอะไรเป็นอาหาร?
ไรฝุ่นชอบอาศัยอยู่ที่อับชื้น มีเส้นใยมาก และที่ที่มีอาหารให้มันกิน โดยอาหารของพวก ไรฝุ่น คือเซลล์ผิวหนังของมนุษย์เรานี่เอง โดยใน 1 วันผิวหนังของเราจะหลุดลอกออกมามากพอที่จะเลี้ยงเจ้า ไรฝุ่น ได้ทั้งกองทัพเลย ชอบที่อับชื้น มีเส้นใยเยอะ แถมกินเศษผิวหนังเราเป็นอาหาร ที่ไหนล่ะที่จะพบ ไรฝุ่น ได้มากที่สุด แน่นอนที่สุดคือ .”บนที่นอนของเรานั่นเอง” โดยเราจะพบ ไรฝุ่น บนที่นอนมากกว่าบนพื้นหรือปะปนในกองฝุ่นทั่วไปโดยในที่นอน 1 หลังจะมีไรฝุ่นอยู่มากกว่า 1 แสนตัวเลยทีเดียว
ปัญหา ไรฝุ่น กับห้องนอนนั้นเป็นของที่อยู่คู่กันมาตลอด ไรฝุ่นที่ติดอยู่ตามผ้าปูที่นอน ตามหมอนที่เราหนุนนอน หรือจะเป็นผ้าห่ม นั้นเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เราเกิดอาการป่วย บางคนอาจจะเป็นโรคภูมิแพ้ หรือถูกเจ้าไรฝุ่นกัดจนเกิดเป็นแผลเล็กๆ คิดดูนะครับว่าถ้าเรากวาดเอาไรฝุ่นมากองรวมกันจนมีน้ำหนัก 1 กรัม ในนั้นเราสามารถพบไรฝุ่นได้ถึง 500 ตัวเลยทีเดียว เยอะมากเลยนะครับ
และในขณะที่เรานอนหลับพักผ่อนอย่างสบายอารมณ์อยู่นั้น มูลของ ไรฝุ่น ก็ยังสามารถฟุ้งกระจาย ลอยเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของเราได้อีกด้วยนะครับ แค่คิดก็ขนลุกแล้วใช่ไหมหล่ะ วันนี้ Smile Shop จะมาแนะนำ วิธีกำจัดไรฝุ่น ตัวฉกาจนี้ออกไปให้ไม่เหลือซาก และ 5 วิธีนี้ก็เป็นวิธีที่แสนจะง่าย แต่ให้ผลอย่างไม่น่าเชื่อ เพียงแค่ทุกคนทำให้เป็นนิสัย เท่านี้เราก็โบกบายเจ้าไรฝุ่นได้แล้วครับ
1.เปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน อย่างสม่ำเสมอ ผ้าปูที่นอน
ถือว่าเป็นแหล่งสะสมของเจ้าไรฝุ่นตัวฉกาจอยู่มากเลย ยิ่งถ้าเราไม่ได้เปลี่ยนผ้าปูที่นอนเป็นเวลานาน ๆ เจ้าไรฝุ่นคงยิ้มเลยหล่ะครับ เพราะการหมักหมมจากคราบเหงื่อไคล ความชื้นในอากาศ รวมไปถึงเศษผม และสิ่งสกปรกบนที่นอนเป็นตัวการสำคัญของการสะสมของฝุ่นซึ่งจะเป็นอาหารชั้นดีของไรฝุ่นเลย มากกว่านั้นการที่เรานอนหลับก็จะมีการผลัดเซลล์ผิว รังแค จากตัวเราตลอดเวลา ไรฝุ่นยิ่งยิ้มกว้างไปใหญ่ เหมือนมีคนพาไปกินบุฟเฟ่ทุกวัน เราจึงควรทำความสะอาดเครื่องนอนเป็นประจำทุกสัปดาห์ โดยการซักผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม หมอน และผ้าที่ใช้คุมเตียง ด้วยน้ำร้อนอุณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียส เพื่อกำจัดไรฝุ่นและสารที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ให้หลุดออกไป
2.นำหมอนหนุน หมอนข้าง หรือที่นอน ไปตากแดดบ้าง
อีกหนึ่งตัวช่วยที่เชื่อว่าหลายๆคนคงทราบกันดีนั้นก็คือ การฆ่าเชื้อโรคด้วยแสงแดด เราควรนำหมอนหนุน หมอนข้าง ผ้าห่ม ที่เราใช้ ไปตากแดดเป็นประจำเพราะแสงแดด มีรังสีในการฆ่าเชื้อโรคและเชื้อราให้ตายได้ และความร้อนจากแสงแดดยังช่วยให้ไข่ของไรฝุ่นเจริญเติบโตต่อไม่ได้อีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นอีกวิธีนึงที่ช่วยลดปริมาณของไรฝุ่นลงได้เป็นอย่างดี แต่ขอแนะนำเพิ่มเติมสำหรับบ้านที่มีพื้นที่กว้าง ควรนำที่นอนออกไปตากแดดด้วยนะครับ เพื่อลดไรฝุ่นได้ดียิ่งขึ้น
3.ใช้หวายหรือไม้ ตบทำความสะอาด
หลาย ๆ คนคงทราบแล้วว่าการที่จะทำให้เชื้อโรคตาย หรือไข่ของไรฝุ่นฝ่อนั้นก็คือการนำไปตากแดด แต่เชื่อไหมครับว่าแค่นั้นอาจยังไม่สามารถกำจัดไรฝุ่นออกไปได้ เราควรหาหวาย หรือไม้ขนาดพอดีมือ ตีหมอน และที่นอนระหว่างตากแดดด้วย เพราะการที่จะทำให้ไรฝุ่น และสิ่งปฏิกูลของมัน (มูล ไรฝุ่นที่ตายแล้ว ตัวไรฝุ่น) ออกไปได้ ต้องหาเครื่องมือที่สามารถตีหรือทุบฝุ่นและสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ในหมอนและที่นอนเราออกมาถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ง่ายและได้ผลดีอีกด้วยนะครับ
4.เครื่องดูดไรฝุ่นหรือกำจัดไรฝุ่นที่มีประสิทธิภาพสูง
การใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับการใช้งานถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ เครื่องกำจัดไรฝุ่นจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและกำจัดไรฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจจะเสียเงินนิดหน่อยแต่ก็ถือว่าคุ้มกับผลลัพธ์ที่ได้มานะครับ เพราะประสิทธิภาพในการดูดนั้นสามารถดูดไรฝุ่นที่ติดอยู่ทุกมุมบนเตียง หมอน ผ้า ตุ๊กตาหรือซอกเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้อย่างเต็มที่
5.เคลียร์ของที่ไม่ได้ใช้ออกไป
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่เป็นตัวการทำให้เกิดฝุ่นบนที่นอนนั้นก็คือ การที่เราเก็บสิ่งของบนเตียงที่มากจนเกินไปอย่างเช่น หมอน ตุ๊กตา ผ้า ที่มีมากเกินความจำเป็น สิ่งเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นแหล่งพักพิงแหล่งโปรดของฝุ่นเลยก็ว่าได้ครับ โดยเฉพาะการนำของเหล่านั้นมาวางไว้บนที่นอน ที่เป็นแหล่งสะสมของฝุ่น นอกเหนือจากนั้น เราควรเอาของที่ไม่จำเป็นออกให้พ้นที่นอนของเรา ให้ได้มากที่สุดหรือถ้ามีสิ่งของใกล้ ๆ เตียงของเรา เราก็ต้องหมั่นทำความสะอาดให้เรียบร้อย เท่านี้ก็จะสามารถลดจำนวนฝุ่นบนที่นอนได้อีกเพียบเลยครับ
6.การห่อหุ้มที่นอนและหมอนด้วยวัสดุกันไรฝุ่นเช่นผ้าคลุมทอแน่นกันไรฝุ่น
การห่อหุ้มที่นอนและหมอนด้วยวัสดุกันไรฝุ่นเช่นผ้าคลุมทอแน่นกันไรฝุ่น จะช่วยลดปริมาณไรฝุ่นที่จะก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้,ควรทำความสะอาดผ้าม่านโดยซักด้วยความร้อนเช่นเดียวกับที่นอน,พรม ก็มีไรฝุ่นเยอะ ฉะนั้นผู้ป่วยภูมิแพ้ไม่ควรใช้พรม,ตุ๊กตาขนหรือนุ่นก็มีไรฝุ่นเยอะนะคะ ควรเลิกใช้หรือถ้าจำเป็นก็ต้องซักน้ำร้อนทุกสัปดาห์,
อย่ามองข้ามฝุ่นรอบๆที่นอนเช่น กองหนังสือบนหัวเตียง กระดาษเอกสารใต้เตียง ที่มีฝุ่นได้เอาออกไปซะ การหมั่นปัดกวาดเช็ดถูบ้าน โดยเฉพาะบริเวณห้องนอน เป็นวิธีการลดปริมาณไรฝุ่นง่ายๆ ที่ควรทำเป็นประจำค่ะ นอกจากเป็นการออกกำลังกายแล้ว ยังเป็นกิจกรรมเสริมสร้างความสามัคคีในครอบครัวอีกด้วย
7.อื่นๆ
“ตื่นเช้ามาก็น้ำมูกไหล เสมหะเต็มคอ จามฟืดฟัดเสียแล้ว” มีใครที่มีอาการแบบนี้แทบจะทุกวันอยู่หรือเปล่า? หลายคนที่มีอาการแบบนี้อาจสันนิษฐานได้ว่าเกิดมาจากโรคภูมิแพ้กำเริบ และเมื่อรู้สึกว่าอากาศในห้องนอนอาจเป็นสาเหตุของอาการภูมิแพ้กำเริบในทุกๆ เช้า จึงสนใจที่จะติดตั้งเครื่องฟอกอากาศไว้ในห้องนอน แต่อันที่จริงแล้วเครื่องฟอกอากาศให้ผลดีต่อผู้ป่วยโรคภูมิแพ้มากน้อยแค่ไหน โดย เครื่องฟอกอากาศ บางรุ่น จะมีฟังกชันและเทคโนโลยีพิเศษ เช่น กำจัดไรฝุ่น ฟิลเตอร์กรองกลิ่น, Activated Carbon, การปล่อยประจุไอออน จึงช่วยรับมือกับกลิ่นไม่พึงประสงค์ อย่างกลิ่นบุหรี่, ควันธูป, กลิ่นถังขยะ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นหากกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศ ก็ลองมองหารุ่นที่มีคุณสมบัติดังกล่าว จะได้เครื่องฟอกอากาศที่คุ้มค่ายิ่งขึ้น เช่น เครื่องฟอกอากาศ Air Pura
ไรฝุ่น คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับไรฝุ่น Q&A
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับไรฝุ่น มีบางส่วนที่ถามคล้ายๆกัน จึงได้รวบรวมตอบคำถามไว้เพื่อให้มีความเข้าใจไรฝุ่นได้กระจ่างขึ้น และสามารถนำข้อมูลไปตอบผู้สนใจได้อย่างถูกต้องและยังนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย
1. ไรฝุ่น กับ ไรอื่นๆ เหมือนกันไหม?
ตัวไร (mite) มีหลายชนิด ทั้งไรคน เช่น ไรขุมขน ไรสัตว์ เช่น ไรนก ไรหนู สำหรับไรที่อยู่ตามฝุ่นบ้านเรือน จึงมักเรียกว่า ไรฝุ่นบ้าน (house dust mite) มูลของไรจำพวกนี้เป็นโปรตีนที่มีคุณสมบัติเป็นสารก่อภูมิแพ้หรือเรียกว่า allergen สามารถก่อโรคภูมิแพ้แก่คนได้
2. ไรฝุ่นกัดหรือดูดเลือดไหม? เพราะตอนนอนรู้สึกคัน
ไรฝุ่น ไม่กัด ไม่ต่อย เพราะปากไม่เป็นลักษณะแทงดูด (Piercing & sucking mouthpart) สำหรับบางคนอาจมีอาการคัน เพราะระคายเคืองสารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่นก็ได้
3. ลูกเหม็น ยาฉีดสเปรย์กันยุง ใช้ฆ่าไรฝุ่นได้ไหม?
โดยทั่วไปสารพวกนี้มีฤทธิ์ฆ่าแมลง ซึ่งก็ฆ่าไรฝุ่นได้ แต่ปัญหาก็คือ ไรฝุ่นมีแหล่งที่อยู่ตามเครื่องนอน ถ้าขืนนำมาฉีด บนที่นอน จะเป็นการใช้ผิดประเภท สงสัยคนจะตายพร้อมไรหรือไรตายก่อนแล้วคนตายตาม
4. นำฟูก หมอน ออกตากแดด ฆ่าไรฝุ่นได้ไหม?
ความร้อนที่ 55-60 องศาเซลเซียส นาน 20 นาทีสามารถฆ่าไรฝุ่นได้แต่ไม่ทำลายสารก่อภูมิแพ้ อากาศกลางแดดเปรี้ยงๆหน้าร้อนจะประมาณ 40-41 องศาเซลเซียส และความร้อนสูงสุดของวันจะเป็น ช่วงบ่าย 2 โมง อุณหภูมิภายในฟูกไม่สูงพอที่จะฆ่าไรได้ มันชาญฉลาดกว่าที่คิด เพราะเมื่อพลิกที่นอนกลับอีกด้าน มันจะหนีลงไปอยู่ในที่ร้อนน้อยกว่า อย่างไรก็ตามพบว่าการตากแดดช่วยทำให้ความอับชื้นในที่นอนลดลง และถ้าตากแดดนานติดต่อกัน 5 ชั่วโมงจะทำให้สภาวะไม่เหมาะแก่การฟักตัวของไข่ไรฝุ่น
5. ที่นอนใหม่ ไม่มีไรฝุ่นใช่ไหม?
บอกไม่ได้ว่า”ไม่มีไรฝุ่น” อาจมีหรือไม่มีไรฝุ่นก็ได้ แต่ที่แน่ๆ เมื่อใช้งานไปจะตรวจพบไรฝุ่นแน่นอน มีงานวิจัยรายงานไว้ว่าที่นอนใหม่ที่ใช้ไปได้นาน 4-6 เดือน สามารถตรวจพบ mite allergen ได้เกินระดับมาตรฐานสากล
6. เครื่องดูดฝุ่นแรงดีๆ ดูดไรฝุ่นได้หมดเลยไหม?
ไรฝุ่นมีขาอันแข็งแรงในการรวบจับเส้นใย และไม่ได้มี 2 ขานะ แต่มี 8 ขา ฉะนั้น สามารถยึดตัวไว้กับเส้นใย ต้านแรงดูดจากเครื่องดูดฝุ่น ตัวไรจึงหลุดออกมาได้ยากมาก อย่างไรก็ตามสามารถดูดซาก และมูลไรได้ ความสำคัญอยู่ที่ถุงเก็บฝุ่น ควรเป็นถุงที่หนา หรือ double bag หรือ ใช้เครื่องที่มีแผ่นกรองที่เรียก HEPA filter จะกั้นไม่ให้ฝุ่นละเอียดเล็ดลอดออกมาอีก ช่วยลดความฟุ้งกระจาย ไม่ควรให้ผู้ป่วยดูดฝุ่นเอง หรืออาจใช้วิธีอื่นแทน เช่น ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดทำวามสะอาด
7. จะทราบได้อย่างไรว่าเราสูดดมสารก่อภูมิแพ้เข้าไปเท่าไร?
เป็นการยากที่จะตรวจวัดว่า เราสูดดมสารก่อภูมิแพ้ไรฝุ่นเข้าไปวีนละเท่าไร ปัจจุบันเราตรวจโดยอ้อมคือ ดูดฝุ่นแวดล้อมที่เราอยู่อาศัยแล้วนำมาตรวจหาปริมาณ mite allergen concentration โดยวิธีทางอิมมูโนวิทยา
8. อยากปูพรม แต่เป็นแพ้ไร ทำอย่างไรดี?
พรมเป็นแหล่งสะสมไร ใครที่คิดจะปูพรม จงคิดให้รอบคอบถึงการทำความสะอาดด้วย โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ “ต้อง” หลีกเลี่ยงการใช้พรม ในต่างประเทศอากาศหนาว ต้องใช้พรม และก็เป็นปัญหาที่ยังแก้ไมได้จนทุกวันนี้ ที่ใช้กันทุกวันนี้คือ โรยด้วยยาฆ่าไร (acaricide) ทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วดูดออกด้วยเครื่องดูดฝุ่น หรือ ใช้เครื่องซักพรมระบบที่มีไอน้ำความร้อนสูง ซึ่งมักต้องให้ professional company มาจัดการ
9. ที่ไหนๆก็มีไรฝุ่นใช่ไหม? จะกำจัดให้หมดไปได้หรือเปล่า?
ไรฝุ่นเป็นสัตว์คู่โลก บ้านสะอาดแค่ไหนก็มีไรฝุ่น ดังนั้นไม่ต้องตกใจเกินเหตุ เราสามารถอาศัยในบ้านเดียวกันได้ เพียงแต่ผู้ที่เป็นภูมิแพ้ ก็ใส่ใจเป็นพิเศษหน่อย เพิ่มความขยันทำความสะอาดมากกว่าผู้ไม่แพ้สักหน่อย ก็จะสามารถมีชีวิตอันปกติได้ ควรใส่ใจห้องนอนมากเป็นพิเศษ และหาทางหลีกเลี่ยงสารแพ้ โดยวิธีง่ายๆ งบประมาณตามเศรษฐานะของตน ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนซื้อของแพงแต่ประโยชน์น้อยมาใช้
11. การซักผ้า ทำให้ไรฝุ่นตายไหม?
ไม่ตาย แต่ชะล้างให้หลุดไปได้ การซักเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งเพราะ มูลไรฝุ่นเป็นสารที่ละลายน้ำได้ จึงขจัดมูลไรได้ดีถึง 98% หรือเกือบหมด ถ้าใช้น้ำผสมผงซักฟอกหรือน้ำสบู่หรือใช้น้ำร้อนด้วยยิ่งทำให้การชะล้างดีขึ้น
12. จำเป็นต้องใช้ผ้ากันไรฝุ่นไหม?
มีงานวิจัยจำนวนมากทั้งในไทยและต่างประเทศยืนยันว่าการใช้ผ้ากันไรฝุ่น ทำให้ลดการฟุ้งการฟุ้งกระจายของสารก่อภูมิแพ้(มูลไร)ได้ และการลดการสัมผัสสูดดมสารก่อภูมิแพ้ไรฝุ่นลงได้จะทำให้อาการของโรคทุเลาลง อย่างไรก็ตามผ้ากันไรฝุ่นไม่ใช่ผ้าวิเศษ ไม่ได้ใช้ในการรักษาโรค อย่าฝากความหวังไว้กับผ้ากันไรฝุ่น ที่นิยมใช้กันมากเพราะเป็นวิธีที่สะดวกในชีวิตประจำวัน
13. ผ้ากันไรฝุ่นที่ดีควรเป็นอย่างไร?
ผ้ากันไรฝุ่นที่ดีควรที่จะ:
– สามารถกั้นตัวไรและมูลได้
– ซักล้างได้
– สบายตัวเมื่อใช้งาน
– ราคาไม่แพง