5 อาหาร ลดคอเลสเตอรอลสูง ลดความดันโลหิตสูง หากินเองได้ ลดเองได้ 

5 อาหาร ลดคอเลสเตอรอลสูง ลดความดันโลหิตสูง หากินเองได้ ลดเองได้   https://smileshopint.com/

 

สารบัญ

 

 

5 อาหารลดคอเลสเตอรอลสูง ลดความดันโลหิตสูง หากินเองได้ ลดเองได้!
แค่กิน = ลด = กินต่อเนื่อง ไม่ต้องกินยา ไม่ต้องหาหมอ

ใช้เวลาอ่าน 7 นาทีแต่ช่วยให้คุณ ไม่ต้องกลัวกับโรคร้าย ที่จะตามมาอยู่กับคุณอีกหลายปี

                  คอเลสเตอรอลสูง ไม่ได้เป็นโรคติดต่อ ที่หากมีคนใกล้ตัวคุณคอเลสเตอรอลสูง แล้วคุณจะต้องสูงตาม ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว ญาติ เพื่อนใกล้ตัว หรือใครก็ตาม แต่คอเลสเตอรอล เป็นเพียงอาการผิดปกติ ที่เกิดขึ้นกับร่างกายของคุณ ที่คุณสามารถดูแลตัวเอง รักษาให้หายได้ ให้ค่าคอเลสเตอรอลของคุณกลับมาเป็นปกติ เพราะต้นเหตุ 95% ของคอเลสเตอรอลสูง มาจากพฤติกรรมการกินของคุณ ส่วนอีก 5% ที่เหลือมาจากโรคร้าย ที่ส่งผลต่อเนื่อง ทำให้คอเลสเตอรอลในเลือดคุณสูง (เช่นความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไต โรคตับ โรคต่อมไทรอยด์ทำงานบกพร่อง)นี่คือหน้าตาของเลือดผู้ป่วยที่เส้นเลือดเต็มไปด้วยไขมัน คอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอร์ไรด์ เมื่ออยู่ในอุณหภูมิห้องสภาพไขมันที่เกาะอยู่ที่ผนังเลือด จากแยกชั้นออกมา ซึ่งไขมันเหล่านี้เกิดมาจากการรับประทานอาหารในแต่ละวัน ที่มีปริมาณไขมันสูง เช่น อาหารตามสั่งต่าง ๆ ที่มัน ๆ ใช้น้ำมันเยอะ ๆ เวลาผัดหรือทอด อาหาฟาสต์ฟู้ด

         หากไม่ปรับพฤติกรรมการกิน หรือไม่กินอาหารที่มีฤทธิ์ในการต้านไขมัน หรืออาหารที่ช่วยลดไขมัน คอเลสเตอรอล หรือไตรกลีเซอร์ไรด์เหล่านี้ จะมีโรคร้ายตามมาอีกมาก ไม่คุ้มในการดูแล รักษาตัวเองแน่กลับมาเริ่มต้นดูแลรักษาตัวเองอย่างถูกต้อง หากพฤติกรรมการกินคือต้นเหตุ กลับมาแก้ที่ต้นเหตุด้วยการกินอาหารที่ถูกต้อง
ไม่ต้องเลิกกินอาหารที่คุณชอบ แต่เพิ่มอาหารที่ช่วยต้านการเกิดคอเลสเตอรอล และมีฤทธิ์ในการลดไขมันเหล่านี้ โอกาสที่คุณจะเจอโรคร้ายแรง ก็แทบจะไม่มีเลย

เริ่มต้นดูแล ป้องกันตัวเอง จากคอเลสเตอรอลสูง ด้วยการกินอาหาร ที่มีฤทธิ์ต้าน ลดคอเลสเตอรอลสูง 5 อย่างนี้

5 อาหารลดคอเลสเตอรอลสูง ลดความดันโลหิตสูง หากินเองได้ ลดเองได้มีดังนี้

1.อะโวคาโด

             จากข้อมูลทางด้านการแพทย์ ฐานข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการแพทย์ทางธรรมชาติ (Natural Medicines Comprehensive Database) ยืนยันว่าในอะโวคาโด ถูกจัดเป็นผลไม้ที่มีปริมาณโพแทสเซียมอยู่ในระดับที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 1 โดยเปรียบเทียบต่อน้ำหนัก 100 กรัม เมื่อเทียบกับบรรดาผลไม้ชนิดอื่น ๆ มากกว่ากล้วย มากกว่าทุเรียน ที่หลาย ๆ คนรู้กันดีว่ามีระดับปริมาณโพแทสเซียมที่สูง

 

 

        ธาตุโพแทสเซียม มีฤทธิ์สรรพคุณทั้งช่วยต้าน ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ลดไขมันชนิดเลว (LDL) ลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ลดไตรกลีเซอร์ไรด์ หนึ่งในต้นเหตุสำคัญของโรคความดันโลหิตสูง ช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิต
นอกจากนี้ในอะโวคาโดยังมีไขมันชนิดดีที่ค้นพบโดยแพทย์นักวิจัย ที่มีชื่อว่า “ไขมันมูฟ่า-MUFA” เป็นไขมันไม่อิ่มตัวพันธะเดี่ยว MonoUnsaturated Fatty Acid ที่มีหน้าที่ช่วยลดไขมันเลว LDL ในเลือด และเพิ่มปริมาณไขมันดี HDL ในเลือด

 

 

 

 อะโวคาโดถือเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์ต้านทั้งคอเลสเตอรอล ไขมันในเส้นเลือด และไตรกลีเซอร์ไรด์ ที่ล้วนเป็นต้นเหตุของโรคความดันโลหิตสูง ที่นำไปสู่โรคร้าย ๆ ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อะโวคาโดยังเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมในวงการอาหารของกลุ่มคนรักสุขภาพอีกด้วย เพราะด้วยปริมาณแคลรอรีที่สูง ปริมาณไฟเบอร์ที่สูงมาก ๆ ทำให้รู้สึกอิ่มท้อง และอุดมไปด้วยสารอาหาร จึงเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของคนที่ต้องการดูแลสุขภาพ

คำแนะนำในการกิน

กินวันละประมาณ ½ – 1 ลูก มีปริมาณแคลรอรีสูง ไม่ควรกินมากเกินไป มีวิตามิน K สูง ไม่เหมาะกับผู้ป่วยผ่าตัด

 

2.กระเทียม

              กระเทียมในประเทศไทย เป็นที่ยอมรับทั่วโลก จนได้ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาแห่งสมุนไพรหลอดเลือด เพราะด้วยสรรพคุณ คุณประโยชน์ ที่เป็นดั่งยา ในการช่วยเรื่องขจัดทั้งไขมัน คอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ ในหลอดเลือด วงการแพทย์ มหาลัยฯ สถาบันวิจัยด้านสุขภาพ รวมถึงโรงพยาบาลในไทยหลายแห่ง ต่างเข้ามาวิจัย เพื่อนำสารสกัดกระเทียมไปใช้ในการรักษาผู้ป่วย ที่มีคอเลสเตอรอลสูง ที่เป็นเหตุทำให้เป็นโรคความดันโลหิตสูงโดยในประเทศเยอรมนี ได้นำกระเทียมไปทดลองในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง โดยให้ผู้ป่วยกินกระเทียม 2 กลีบ ทุกวันต่อเนื่อง 1 เดือน ผลความดันลดลงจาก 171/102 เป็น 152/89 เมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่ให้ยาหลอก โดยไม่ได้มีการกินกระเทียมเลยในแต่ละวัน ผลคือ ความดันไม่เปลี่ยนแปลงเลย ชัดเจนว่ากระเทียมมีผลช่วยลดความดันโลหิตสูง อันเนื่องมาจากคอเลสเตอรอลสูงอย่างเห็นได้ชัด

ทำไมกระเทียมถึงลดคอเลสเตอรอลได้?
ในกระเทียมมีสาร “อัลลิซิน” ที่มีฤทธิ์ช่วยป้องกัน และช่วยสลาย ไขมัน คอเลสเตอรอล ทั้งที่มีอยู่ และมีฤทธิ์ช่วยป้องกันคอเลสเตอรอลที่จะเกิดใหม่ได้เต็มประสิทธิภาพ

 

 

 

                          ประโยชน์ของกระเทียม

1. รู้สึกร่างกายเบาขึ้น มีเรี่ยวมีแรง เนื่องจากเลือดจะสูบฉีดได้ดีขึ้น ระบบไหลเวียนโลหิตดี เลือดไหลไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย
2. อาการปวดเมื่อยตามส่วนต่าง ๆ น้อยลง
3. ไม่มีอาการปวดหัว และเพลียตอนตื่นนอน
4. เลือดไหลเวียนสะดวกขึ้น หายใจโล่ง และสดชื่นทั้งวัน
5. รู้สึกหิวน้อยลง โดยเฉพาะคนที่มีไขมันสะสมเยอะ เพราะกระเทียมเข้าไปสลายไขมันเป็นพลังงานตลอดเวลา ทำให้ไม่หิว
6 ทานต่อเนื่องเป็นประจำช่วยส่งผลให้ค่าไขมัน LDL ลดลงอยู่ในเกณฑ์ปกติ
7. สำหรับผู้ที่หน้ามืด และวูบบ่อย ๆ อาการนี้จะลดลง เพราะกระเทียมเป็นสมุนไพรร้อนที่มีฤทธิ์แก้อาการนี้โดยตรง
8. แก้อาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืด เฟ้อ ปวดท้องบ่อย เพราะกระเทียมช่วยย่อย
9. สลายไขมันที่เกาะตามหลอดเลือด สำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันสูง-โรคไขมันอุดตัน เพื่อให้ได้ผลที่ดี และชัดเจนขึ้น ควรลดอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล เพื่อลดการสะสมเพิ่มของไขมัน
10. ช่วยลดความดันโลหิต เหมาะสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง

 

3.งาขี้ม่อน

 

 

        งาขี้ม่อน เป็นธัญพืชที่เป็นอันดับหนึ่งในการช่วยลดคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด ลดความดันโลหิตสูง เพราะเป็นธัญพืชชนิดเดียวที่อุดมไปด้วย กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน – หรือที่เรียกว่า “ไขมันพูฟ่า PUFA” ที่เป็นไขมันที่แพทย์นักวิจัยค้นพบว่ามีฤทธิ์ในการช่วยผู้ป่วย ที่มีละดับคอเลสเตอรอลสูง และยังช่วยเสริมในด้านอื่น ๆ ที่ให้ผลอย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

 

           ในงาขี้ม่อนยังเป็นพืชเพียงชนิดเดียวที่อุดมไปด้วยไขมันกลุ่ม โอมาก้า 3 และ 6 ที่มีปริมาณอัดแน่นมากกว่าปลาทะเลน้ำลึกถึง 20 เท่า สาเหตุที่ทำไมคนที่อาศัยอยู่บนดอย ห่างไกลจากทะเลถึงไม่ขาดสารอาหารเหล่านี้ เพราะงาขี้ม่อนมีถิ่นกำหนดอยู่ทางภาคเหนือ ที่คนบนดอยต่างกินกัน

 

 

 

                 อย่างไรก็ตามในการรับประทานงาขี้ม่อน คุณประโยชน์สูงสุดของงาขี้ม่อนที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้จะถูกสกัดออกมาเป็นน้ำมันงาขี้ม่อน และไม่ควรรับประทานตัวน้ำมันงาขี้ม่อนนี้ในปริมาณมาก ๆ โดยตรง เพื่อหวังว่าจะช่วยในการรักษา แต่ให้รับประทานในปริมาณเล็กน้อยในแต่ละมื้อ ให้ใช้ทดแทนน้ำมันทั่วไปในการปรุงอาหาร หรือใช้ในการกินควบคู่กับสลัดเท่านี้เป็นประจำก็เพียงพอแล้ว

 

4.มะพร้าว

 

 

                 ในเนื้อมะพร้าวสีขาวมีไขมันอิ่มตัวที่เป็นไตรกลีเซอไรด์สายยาวปานกลาง ที่มีคุณประโยชน์ทางสุขภาพมากกว่าไขมันอิ่มตัวชนิดอื่น ๆ ที่เป็นสายยาว เช่น น้ำมันจากพืช ไขมันจากนมและสัตว์ จึงทำให้น้ำมันมะพร้าวถูกนำมาใช้เป็นอาหารที่แพทย์แนะนำให้กับผู้ป่วยที่ต้องมีการควบคุมดูแลที่ต้องรักษาและป้องกันสุขภาพ อย่างโรค ไขมันในเส้นเลือด คอเลสเตอรอลสูง เบาหวาน หัวใจ
น้ำมันมะพร้าวนี้จะเข้าไปช่วยเพิ่มไขมันชนิดดี (HDL) และไปลดไขมันชนิดเลว (LDL) ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคดังกล่าว
หากคุณมีพฤติกรรมการกินที่ชอบกินของทอด ของมัน กุ้ง ปลาหมึก ไข่แดง ไข่ปลากด ไข่ปลาช่อน ไข่นกกระทา ตับหมู ตับไก่ ที่ล้วนเป็นอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง ที่เป็นต้นเหตุการณ์ของไขมันที่แกะอยู่ตามหลอดเลือด และทางที่ดีที่สุดคือ ควรเลิกกินอาหารเหล่านี้
แต่หากการเลิกกินไปเลยเป็นอะไรที่ยาก คุณแค่เปลี่ยนวิธีการกินเสียใหม่ก็แค่

 

 

 

 

     จากฐานข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการแพทย์ทางธรรมชาติ (Natural Medicines Comprehensive Database) ได้มีการศึกษาและวิจัยสรรพคุณของน้ำมันมะพร้าวในเชิงลึก และค้นพบว่า
น้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันที่แตกต่างจากนั้นมันชนิดอื่น ๆ โดยแทนที่ร่างกายจะเปลี่ยนไขมันที่ได้รับเป็นไขมันสะสมในร่างกาย น้ำมันมะพร้าวกลับช่วยให้การเผาผลาญไขมันได้มากขึ้นและส่งผลให้น้ำหนักลดน้อยลง กระชับสัดส่วน
ได้มีการทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง ผู้หญิงที่มีภาวะอ้วนลงพุง ที่จัดเป็นกลุ่มที่มีระดับคอเลสเตอรอลสูง ไขมันในเลือดสูง ในช่วงอายุ 20-40 ปี โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
โดยให้กินในปริมาณ 30 มิลลิลิตร เท่ากัน ในระยะเวลาเท่ากัน 12 สัปดาห์ และมีการควบคุมอาหารการกินที่เหมือนกัน แตกต่างเพียงน้ำมันที่ได้รับเท่านั้น

1. กินนมถั่วเหลือง (ไขมันจากพืช)
ผล: มีไขมันในเลือดสูงขึ้น ค่า HDL ลดลง LDL สูงขึ้น คอเลสเตอรอลสูงขึ้น ไตรกลีเซอไรด์สูงขึ้น อย่างเห็นได้ชัด
2. กินน้ำมันมะพร้าว
ผล: ดัชนีมวลกายลดลง รอบเอวลดลง สัดส่วนกระชับขึ้น ไม่ส่งผลใด ๆ ต่อค่าไขมันในเลือดเลย
และน้ำมันมะพร้าวยังมีประโยชน์ที่ช่วยรักษาโรคอัลไซเมอร์ เบาหวาน ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง สร้างเพิ่มคุ้มกัน สมานแผล บำรุงผิวพรรณ เส้นผม ขับล้างสารพิษ ดีท็อกซ์ของเสีย กระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ และยังช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองอีกด้วย
น้ำมันมะพร้าวเลยถูกจัดเป็นหนึ่งในอาหาร ลดคอเลสเตอรอล ลดไขมันในเลือด และสรรพคุณต้านโรคอีกมาก เพียงแค่เปลี่ยนน้ำมันที่คุณใช้เท่านั้นเอง

5.รำข้าว

 

 

 

 

       รศ.ดร.สุนันท์ วิทิตสิริ คุณหมอในมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กล่าวถึงสรรพคุณของน้ำมันรำข้าว ที่โดดเด่นที่สุด จากงานวิจัยจำนวนมาก ที่ให้ผลไปในทางเดียวกันว่าน้ำมันรำข้าวมีประโยชน์ต่อร่างกายผู้รับประทานทานใน 3 ด้านนี้มากที่สุด และเป็นอันดับต้น ๆ ในอาหารที่ช่วยในเรื่องนี้

1. ช่วยควบคุมและลดคอเลสเตอรอลในเลือด
ผลเกิดจากสารที่มีประโยชน์หลายตัวในรำข้าวและน้ำมันรำข้าว ในน้ำมันรำข้าวมีไขมันอิ่มตัวตำแหน่งเดียว เป็นกรดไขมันดี ที่เข้าไปช่วยเพิ่มปริมาณไขมันดี HDL ในหลอดเลือด เพื่อช่วยในการสลายไขมันเลว LDL และคอเลสเตอรอลที่เกาะตามผนังหลอดเลือด และมีผลการวิจัยยื่นยันถึงประสิทธิผลที่ชัดเจนและเด่นชัดในการช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ไขมันในหลอดเลือด
คุณหมอได้มีการแนะนำให้ผู้ป่วยที่มีภาวะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ จากภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ไขมันในเลือดสูง จนนำไปสู่ภาวะเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ ได้หันมากินน้ำมันรำข้าวเพื่อเป็นการป้องกัน โดยไม่มีผลค้างเคียงใด ๆ โดยรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมต่อมื้ออาหาร

2. ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
งานวิจัยพบว่าในรำข้าวมีสารโอรีซานอล ที่พบได้ในน้ำมันรำข้าวเท่านั้น ไม่สามารถพบได้ในน้ำมันประเภทอื่น ๆ ที่เข้าไปมีผลต่อการทำงานของเซลล์ โดยทำให้เซลล์สามารถรองรับระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้น โดยเข้าไปเพิ่มอินซูลินในร่างกาย ทำให้น้ำตาลที่เข้าสู่เส้นเลือด ถูกอินซูลินนำพาไปเป็นพลังงานให้ร่างกาย ด้วยเหตุนี้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดถูกควบคุมได้ ผู้ป่วยเบาหวานเหมาะในการรับประทาน
และยังช่วยลดการสะสมไขมันที่ที่เกิดจากน้ำตาลที่เข้าสู่เส้นเลือดมาก แต่อินซูลินไม่สามารถพาน้ำตาลเหล่านี้ไปเป็นพลังงานให้กับเซลล์ได้ เพราะสารโอรีซานอลเพิ่มปริมาณอินซูลิน

3. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบทางเดินอาหารและขับถ่าย
ในรำข้าว 100 กรัม มีปริมาณใยอาหาร 15 กรัม มีมากที่สุดในบรรดาผัก มากกว่าดอกสะเดาที่เป็นผักที่ขึ้นชื่อว่ามีใยอาหารสูงที่สุด (ยังมีแค่เพียง 11 กรัมเท่านั้น) และในรำข้าวมีสารช่วยให้นอนหลับง่าย หลับสนิท ให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้เป็นอย่างดี

    สรุปอาหารทั้ง 5 ชนิดนี้เป็นอาหารที่ล้วนขึ้นชื่อว่ามีฤทธิ์เป็นยาต้าน ที่ช่วยลดไขมัน คอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ในเส้นเลือด ที่คุณมั่นใจได้เลยว่าหากคุณได้รับประทานอาหารเหล่านี้ จะทำให้คุณไม่ต้องกังวลกับโรคร้ายแรงต่าง ๆ ที่ตามมาด้วยค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาเป็นแสน ๆ หรือมากกว่านั้นเสียอีกดูแลตัวเองตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ทุกอย่างล้วนป้องกันและรักษาได้ นะค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published.